การวิจัยล่าสุดพบว่าความยืดหยุ่นและการฟื้นฟูเป็นปัจจัยผลักดันธุรกิจครอบครัวในปัจจุบัน

รายงานประจำปีของ KPMG Private Enterprise และ STEP Project Global Consortium

รายงานประจำปีของ KPMG Private Enterprise และ STEP Project Global Consortium

รายงานประจำปีของ KPMG Private Enterprise และ STEP Project Global Consortium พบว่าความผูกพันและการสร้างโอกาสสำหรับผู้นำรุ่นถัดไปในการรับมือกับความเสี่ยงและการสะสมประสบการณ์นอกธุรกิจครอบครัวเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จของธุรกิจครอบครัวในอนาคต

กรุงเทพฯ 15 มิถุนายน 2565 – รายงานเกี่ยวกับธุรกิจครอบครัวทั่วโลกของ KPMG Private Enterprise และ STEP Project Global Consortium เผยว่าผลประกอบการที่ยั่งยืนของธุรกิจครอบครัวเกิดจากลักษณะเฉพาะบางประการและความเชี่ยวชาญเฉพาะอย่างของผู้นำรุ่นต่อมาที่เหมาะกับโมเดลธุรกิจของบริษัทนั้นๆ

รายงาน “The regenerative power of family business – Transgenerational entrepreneurship” ได้สำรวจข้อมูลเชิงลึกจาก CEO และผู้บริหาร 2,439 รายจากธุรกิจครอบครัวใน 70 ประเทศและเขตการปกครองทั่วโลก ซึ่งรายงานนี้พบว่าปัจจัยร่วมที่ทำให้ธุรกิจครอบครัวมีความยืดหยุ่นและมีความสามารถในการฟื้นฟู มีสามอย่างด้วยกันคือ การมีคุณลักษณะของการเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurial orientation) การมีความผูกพันกับองค์กร (Emotional attachment) และการที่ผู้นำรุ่นต่อไปมีการแสวงหาประสบการณ์ภายนอกธุรกิจครอบครัวของตน

ประเด็นสำคัญที่ได้จากการสำรวจ: ผู้นำรุ่นถัดไปต่างตักตวงประสบการณ์ทำงานจากนอกธุรกิจครอบครัวก่อน และบ่อยครั้งมักได้เงินทุนจำนวนเล็กน้อยจากครอบครัวเพื่อฝึกการลงทุนและการบริหารความเสี่ยง ซึ่งพบว่าสำหรับธุรกิจครอบครัวที่ได้ถูกสำรวจในการวิจัยครั้งนี้ การปฏิบัติในลักษณะนี้ส่งผลกระทบในเชิงบวกต่อผลประกอบการบริษัทในระยะยาว

สมาชิกในครอบครัวที่มีโอกาสเป็นผู้นำรุ่นต่อไปต่างได้รับการศึกษาในแง่การคำนวณและบริหารความเสี่ยง ซึ่งสอดคล้องกับหนึ่งในสามปัจจัยความสำเร็จของธุรกิจครอบครัวในปัจจุบัน ซึ่งก็คือ Entrepreneurial orientation รายงานฉบับนี้จาก KPMG Private Enterprise และ STEP Project Global Consortium พบว่าสามปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจครอบครัวมีความสามารถในการฟื้นฟูได้เสมอคือ:

  1. การมีคุณลักษณะของการเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurial orientation): เป็นลักษณะที่เฉพาะและขาดไม่ได้ในการที่ธุรกิจครอบครัวจะสร้างนวัตกรรมและมีการเติบโตจากรุ่นสู่รุ่น ความต้องการที่จะสานต่อจิตวิญญาณของผู้ก่อตั้งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้สมาชิกในครอบครัวสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เสมอ สมาชิกในครอบครัวที่มีโอกาสเป็นผู้นำในอนาคตจะถูกสอนให้บริหารจัดการความเสี่ยงอย่างหมาะสมและตัดสินใจได้ด้วยตนเอง โดยอาจได้รับเงินทุนก้อนเล็กๆ เพื่อใช้ในการฝึกลงทุนละเรียนรู้วิธีการเป็นเจ้าของธุรกิจจากประสบการณ์ตรง
  2. ความมั่งคั่งทางสังคม (Socioemotional wealth): การที่ครอบครัวสามารถควบคุมและมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจที่รวดเร็วขององค์กร รวมกับความมั่งคั่งทางสังคมถูกมองว่าเป็นลักษณะที่จำเป็น และที่ครอบครัวจะต้องรักษาและปกป้องไว้ ผู้ที่ถูกสำรวจในครั้งนี้มองว่าสิ่งเหล่านี้สามารถใช้ชี้วัดความสำเร็จที่นอกเหนือจากผลประกอบการทางด้านการเงินของธุรกิจครอบครัวได้ ซึ่งลักษณะเฉพาะนี้มักหายากในธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจครอบครัว
  3. ผู้นำที่สร้างแรงจูงใจ (Motivational leadership): ความเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurialism) และ ความมั่งคั่งทางสังคม (Socioemotional wealth) นั้นต่างเป็นสิ่งที่สร้างความแตกต่างในการแข่งขันทางธุรกิจ ซึ่งสองสิ่งนี้จะทำให้ธุรกิจครอบครัวมีความเข้มแข็งมากขึ้นเมื่อประกอบกับผู้นำที่มีวิสัยทัศน์แห่งการเปลี่ยนแปลง หรือมีเสน่ห์น่าติดตาม

แอนเดรีย คาลาโบร ผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการทั่วโลก STEP Project Global Consortium กล่าวว่าความสำเร็จของธุรกิจครอบครัวถูกตัดสินทั้งจากเป้าหมายด้านการเงิน และที่ไม่ใช่ด้านการเงิน เช่น ความสามารถในการควบคุมการเปลี่ยนถ่ายอำนาจจากรุ่นสู่รุ่น ทุนทางสังคม (Social capital) ความรู้สึกผูกพันกับองค์กร และชื่อเสียงองค์กร เป็นต้น การรักษาและเพิ่มพูนความมั่งคั่งทางสังคมอาจมีการสั่นคลอนในช่วงเปลี่ยนถ่ายอำนาจจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งช่วงเวลานี้เป็นช่วงสำคัญที่ครอบครัวจะต้องรักษาอำนาจการควบคุมและอิทธพล อัตลักษณ์ และความผูกพันกับองค์กร ที่มีอยู่ไว้เพื่อการเปลี่ยนถ่ายผู้นำที่ราบรื่น

ผลประกอบการ: จากธุรกิจครอบครัวที่มีผลประกอบการสูงลงไปจนที่มีผลประกอบการต่ำ

ผลการสำรวจยังพบอีกว่าลักษณะของผู้นำธุรกิจครอบครัวส่งผลกระทบต่อผลประกอบการ

จากผลสำรวจ KPMG Private Enterprise และ STEP Project Global Consortium ได้แบ่งลักษณะของธุรกิจครอบครัวออกเป็น 4 ประเภท ตั้งแต่ธุรกิจที่มีผลประกอบการที่ดี (Top performers) ไปจนถึงธุรกิจที่ผลประกอบการไม่ดี (Underperformers) โดยได้ระบุปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจครอบครัวมีความสามารถในการฟื้นฟู และปัจจัยที่ส่งผลต่อผลประกอบการทางการเงิน ครอบครัว และสังคม จากรุ่นสู่รุ่น

ประเด็นสำคัญของธุรกิจแต่ละประเภท

  • ธุรกิจที่มีความหลากหลายของบุคคลในองค์กรและมีคุณลักษณะของการเป็นผู้ประกอบการมักมีผลประกอบการที่ดี: ธุรกิจครอบครัวที่มีคุณลักษณะของการเป็นผู้ประกอบการสูง มีความหลากหลายในองค์กร และมีผู้นำที่มีเสน่ห์ มักมีผลประกอบการทั้งทางการเงิน และที่ไม่ใช่การเงิน (ทุนทางสังคม ความผูกพันองค์กร ฯลฯ) สูงกว่าองค์กรอื่น นอกจากนี้ ความยึดมั่นในนวัตกรรม และความผูกพันกับองค์กรก็เป็นลักษณะที่มักพบในองค์กรที่มีผลประกอบการที่ดีเช่นกัน
  • ผู้นำที่สร้างแรงจูงใจ (Motivational leadership) ได้รับความนิยมมากที่สุด: ลักษณะของ CEO ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในทุกภูมิภาคคือผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ด้านการเปลี่ยนแปลง (Transformational leadership style) กล่าวคือผู้นำที่ผลักดันการเปลี่ยนแปลงในคุณค่า ความเชื่อและลักษณะนิสัยเพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับเหล่าพนักงานได้ทำในสิ่งที่เหนือความคาดหมาย ลักษณะของผู้นำที่ได้รับความนิยมรองลงมาคือผู้นำที่มีเสน่ห์ (Charismatic leadership style)
  • Motivational leadership ช่วยผลักดันความก้าวหน้า: ผลสำรวจพบว่าผู้นำที่สร้างแรงจูงใจมักนำไปสู่ความก้าวหน้าทางการเงิน สังคม และสิ่งแวดล้อม รวมถึงช่วยสร้างและบ่มเพาะความซื่อสัตย์ และผูกพันกับธุรกิจครอบครัว

ทอม แม็คกินเน็ส หัวหน้าฝ่ายธุรกิจครอบครัวทั่วโลก เคพีเอ็มจีไพรเวท เอ็นเตอร์ไพรซ์ เคพีเอ็มจี อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า “จากผลสำรวจพบว่า เมื่อธุรกิจมีคุณลักษณะของผู้ประกอบการ และความผูกพันกับองค์กรสูง ผลประกอบการองค์กรในแต่ละด้านก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย ถึงแม้ว่าปัจจัยที่นำไปสู่ความสำเร็จขององค์กรจะแตกต่างกันไปตามแต่ละองค์กร แต่ก็ยังคงมีลักษณะที่เชื่อมโยงกัน และสามารถเป็นบทเรียนให้กับธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจครอบครัวอีกด้วย จุดเริ่มต้นที่ดีคือการมองกลยุทธ์องค์กรอย่างครอบคลุม โดยให้ความสำคัญเท่าเทียมกันระหว่างธุรกิจ พนักงานและผลกระทบทางสังคม ธุรกิจทุกประเภทควรที่จะถอยหลังออกมามองผลประกอบการขององค์กรด้วยมุมมองใหม่ๆ ที่ได้กล่าวมา”


ธุรกิจครอบครัวถือว่าเป็นรากฐานของเศรษฐกิจไทย เนื่องจาก 80% ของธุรกิจในประเทศไทย และ 20 จาก SET50 ในไทยเป็นธุรกิจครอบครัว การที่ธุรกิจครอบครัวจะประสบความสำเร็จจากรุ่นสู่รุ่นนั้น ธุรกิจจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการถ่ายมอบอำนาจ และการสร้างคุณลักษณะของผู้ประกอบการในผู้นำรุ่นถัดๆ มา ต้องเข้าใจและยอมรับในความแตกต่างระหว่างสมาชิกในครอบครัวแต่ละรุ่น รวมถึงการเข้าใจและไม่ก้าวก่ายขอบเขตอำนาจของกันและกัน นอกจากนี้ยังต้องตามกลยุทธ์องค์กร และมีโครงสร้างองค์กรที่ชัดเจน

ศศิธร พงศ์อดิศักดิ์
กรรมการบริหาร และหัวหน้าฝ่ายไพรเวท เอ็นเตอร์ไพรซ์
เคพีเอ็มจี ประเทศไทย


อ่านรายงาน The Regenerative Power of Family Businesses ฉบับเต็มได้ที่นี่

สำหรับสื่อมวลชน กรุณาติดต่อ:

พลอย พยัฆวิเชียร
อีเมล: ploi@kpmg.co.th

Notes to Editors:

About the STEP Project Global Consortium

The STEP Project Global Consortium is a global applied research initiative that explores family and business practices within business families and generates solutions that have immediate application for family business leaders. STEP aims to be a leading global family business research project with an international reputation. The research insights are specifically drawn to be of relevance to developing new theoretical insights that can offer novel and valuable best practices recommendations to the business stakeholders and the practice community at large. Having a global worldwide orientation, STEP offers networking opportunities for researchers, family business owners and consultants coming from five continents.

Visit: thestepproject.org

About the KPMG Private Enterprise Global Center of Excellence for Family Business

As with your family, your business doesn’t stand still — it evolves. Family businesses are unique and KPMG Private Enterprise family business advisers understand the dynamics of a successful family business and work with you to provide tailored advice and experienced guidance to help you succeed.

To support the unique needs of family businesses, KPMG Private Enterprise coordinates with KPMG firms from around the world that are dedicated to offering relevant information and advice to family‑owned companies. KPMG Private Enterprise understands that the nature of a family business is inherently different from a non‑family business and requires an approach that considers the family component.

Visit: home.kpmg/familybusiness

About KPMG Private Enterprise

Passion, it’s what drives entrepreneurs, it’s also what inspires KPMG Private Enterprise advisers to help you maximize success. You know KPMG, but you might not know KPMG Private Enterprise. KPMG Private Enterprise advisers in KPMG firms around the world are dedicated to working with you and your business, no matter where you are in your growth journey — whether you’re looking to reach new heights, embrace technology, plan for an exit, or manage the transition of wealth or your business to the next generation. Working with KPMG Private Enterprise, you’ll gain access to a trusted advisor — a single point of contact who shares your entrepreneurial mindset. Access to KPMG’s global resources and alliance network can help you drive your business forward and meet your goals. Your success is KPMG Private Enterprise’s legacy.

Visit: home.kpmg/privateenterprise

About KPMG International Limited

KPMG is a global organization of independent professional services firms providing Audit, Tax and Advisory services. KPMG is the brand under which the member firms of KPMG International Limited (“KPMG International”) operate and provide professional services. “KPMG” is used to refer to individual member firms within the KPMG organization or to one or more member firms collectively. KPMG firms operate in 144 countries and territories with more than 236,000 partners and employees working in member firms around the world. Each KPMG firm is a legally distinct and separate entity and describes itself as such. Each KPMG member firm is responsible for its own obligations and liabilities.

KPMG International Limited is a private English company limited by guarantee. KPMG International Limited and its related entities do not provide services to clients.

For more detail about our structure, please visit home.kpmg/governance.