สภาอุตสาหกรรมฯ เตรียมติดปีกธุรกิจให้กับสมาชิก SMEs / Startups ปูแนวทางสู่ตลาดทุน “LiVE Exchange”
จับมือ SET และ เคพีเอ็มจี ประเทศไทย บ่มเพาะผู้ประกอบการที่ต้องการระดมทุนในตลาดทุน
จับมือ SET และ เคพีเอ็มจี ประเทศไทย บ่มเพาะผู้ประกอบการที่ต้องการระดมทุนในตลาดทุน
วันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม 2564 – สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ เคพีเอ็มจี ประเทศไทย จับมือครั้งสำคัญ จัดทำหลักสูตรเพื่อบ่มเพาะผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิก โดยเฉพาะ SMEs และ Startups ที่มีศักยภาพและต้องการระดมทุนในตลาดทุนผ่าน “LiVE Exchange” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแหล่งเงินทุนทางเลือกสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเงินทุนเพื่อขยายธุรกิจให้เติบโตขึ้น คาดว่าจะมีสมาชิกไม่น้อยกว่า 100 บริษัทสนใจเข้าร่วมโปรแกรม
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า “การส่งเสริมสมาชิกให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนในรูปแบบต่างๆ เป็นภารกิจที่สำคัญที่สภาอุตสาหกรรมฯ ดำเนินการมาโดยตลอด สำหรับการระดมทุนในตลาดทุนเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่สมาชิกให้ความสนใจ ซึ่งที่ผ่านมา การระดมทุนในตลาดทุนผ่าน SET และ mai ค่อนข้างยากสำหรับธุรกิจ SMEs และ Startups แต่ด้วยการพัฒนาตลาดหลักทรัพย์สำหรับ SMEs และ Startups หรือ LiVE Exchange ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ และ ก.ล.ต. อยู่ระหว่างพัฒนากฎเกณฑ์และระบบงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง จะช่วยทำให้ผู้ประกอบการ SMEs และ Startups สามารถเข้าถึงการระดมทุนได้ง่ายขึ้น ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง
อย่างที่ทราบว่าสมาชิกสภาอุตสาหกรรมฯ กว่าร้อยละ 80 เป็นผู้ประกอบการ SMEs รวมถึงกลุ่ม Startups ใหม่ๆ ที่เริ่มเข้ามาในเครือข่ายของสภาอุตสาหกรรมฯ เอง การพัฒนา LiVE Exchange จะช่วยเปิดโอกาสให้สมาชิกที่มีศักยภาพและพร้อมที่จะขยายธุรกิจให้เติบโต มีแหล่งเงินทุนมารองรับ การจัดทำความร่วมมือระหว่างสภาอุตสาหกรรมฯ ตลาดหลักทรัพย์ฯ และเคพีเอ็มจี ประเทศไทย ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับการยอมรับระดับสากล ในครั้งนี้ จะมุ่งเน้นการสนับสนุนการสร้างองค์ความรู้ให้กับสมาชิก โดยอยู่ระหว่างการพัฒนารูปแบบการจัดทำโครงการต่าง ๆ ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ และ เคพีเอ็มจี ซึ่งหากมีค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมโครงการ สภาอุตสาหกรรมฯ จะมีการกำหนดอัตราพิเศษสำหรับสมาชิก รวมถึงจะได้จัดหางบประมาณมาสนับสนุนช่วยเหลือค่าใช้จ่ายดังกล่าวในลำดับต่อไป ซึ่งคาดว่าจะมีสมาชิกสนใจและพร้อมจะพัฒนาเติบโตกว่า 100 บริษัท”
ดร. ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า “ตลาดหลักทรัพย์ฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญในการสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนผ่านกลไกตลาดทุนของผู้ประกอบการทุกขนาด เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะ SMEs และ Startups ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงได้ร่วมกับสำนักงาน ก.ล.ต. พัฒนากฎเกณฑ์รองรับการระดมทุนในวงกว้าง (IPO) และเตรียมจัดตั้งตลาดรองสำหรับ SMEs และ Startups หรือ LiVE Exchange เพื่อเพิ่มช่องทางการระดมทุนสำหรับผู้ประกอบการและเพิ่มทางเลือกการลงทุนให้กับผู้ลงทุน โดยการพัฒนา LiVE Exchange ใช้แนวคิด Light-touch supervision โดยปรับกฎเกณฑ์ ที่เกี่ยวข้องให้เหมาะสม เพื่อให้ SMEs และ Startups เข้าถึงแหล่งเงินทุนในตลาดทุนได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ คาดว่าจะเปิดให้บริการ LiVE Exchange ได้ภายในสิ้นปี 2564
นอกจากนี้ เพื่อให้ SMEs และ Startups มีความพร้อมในการเข้าสู่ตลาดทุน กลุ่มตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เปิดบริการ LiVE Platform โดยร่วมกับพันธมิตรทุกภาคส่วนกว่า 25 ราย พัฒนาองค์ความรู้ และบริการต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการ อาทิ การเรียนรู้ผ่าน e-Learning บริการ Business Coaching เป็นต้น ความร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และเคพีเอ็มจี ประเทศไทย ครั้งนี้ จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพและความพร้อมของผู้ประกอบการ SMEs และ Startups ที่เป็นสมาชิกของสภาอุตสาหกรรมฯ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งต่อยอดบริการบน LiVE Platform ให้ครอบคลุมความต้องการของผู้ประกอบการ SMEs / Startups ได้มากยิ่งขึ้น”
นายเจริญ ผู้สัมฤทธิ์เลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเคพีเอ็มจี ประเทศไทย กล่าวว่า “ผมและเคพีเอ็มจี ประเทศไทยรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือและสนับสนุนการเติบโตของกลุ่มธุรกิจ SMEs และกลุ่ม Startups ให้มีศักยภาพและความพร้อมในการเข้าสู่ตลาดทุน เพราะกลุ่มธุรกิจเหล่านี้มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เคพีเอ็มจี ประเทศไทย มีประสบการณ์ ความเข้าใจ และความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ รวมทั้งการบริหารจัดการปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ของผู้ประกอบการ ทั้งในด้านการขยายธุรกิจและการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเป็นอย่างดี โดยเแต่ละองค์กรต้องคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ให้ครบถ้วนและวิเคราะห์เชิงลึก ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยด้านดำเนินธุรกิจ การเงิน การบัญชี ข้อบังคับทางกฎหมายและภาษี เคพีเอ็มจี ประเทศไทย ในฐานะผู้ให้บริการด้านการสอบบัญชีและการให้ความเชื่อมั่นอื่น ภาษี กฎหมายและที่ปรึกษาธุรกิจ มีความพร้อม มีผู้เชี่ยวชาญ และมีเครือข่ายเข้าถึงความรู้ เทคโนโลยี และผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลก เราพร้อมที่จะสนับสนุนในการร่วมยกระดับกลุ่มธุรกิจ SMEs และกลุ่ม Start-ups โดยเฉพาะอย่างยิ่งความร่วมมือกับทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพื่อสนับสนุนองค์ความรู้บน LiVE Platform และการจัดทำโปรแกรมบ่มเพาะที่ได้รวบรวมความรู้ที่จำเป็น และจัดทำเป็นหลักสูตรเฉพาะให้กับ SMEs และ Startups โดยเคพีเอ็มจี ประเทศไทย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือครั้งสำคัญนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพัฒนาและสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจไทยได้อย่างยั่งยืน”
ทั้งนี้ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ เคพีเอ็มจี ประเทศไทย ยังคงมุ่งมั่นที่จะสนับสนุน ส่งเสริมและพัฒนา SMEs และ Startups ให้เติบโดอย่างยั่งยืนผ่านกลไกตลาดทุน และขอเชิญสมาชิกสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและผู้ประกอบการ SMEs ที่สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน ส.อ.ท. หมายเลข 1453 หรือสอบถามที่สถาบัน SMI โทรศัพท์ 02-345-1118, 02-345-1188, 02-345-1093
สำหรับสื่อมวลชน กรุณาติดต่อ:
- ฝ่ายสื่อสารองค์กร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (โทร. 0-2345-1013)
- คุณพลอย พยัฆวิเชียร - เคพีเอ็มจี ประเทศไทย อีเมล: ploi@kpmg.co.th